วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

วิชาภาษาไทย (สำนวน สุภาษิต คำพังเพย)


1.รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง ความหมาย ทำไม่ดีหรือทำผิด กลับโทษผู้อื่น

ตัวอย่าง เช๋น วันหนึ่งแดง อยากไปเที่ยวกับเพื่อน จึงได้ไปตามเพื่อนๆมาแล้วนัดกันไปเที่ยวที่สวนสัตว์ แดงได้นัดวันเวลาและสถานที่เจอกันไว้อย่างเรียบร้อย จากนั้นก็แยกจากกัน แล้ววันเวลาที่นัดก็มาถึง ทั้งหมดได้มาเจอกัน ยกเว้น แดง ที่ยังไม่มา ทุกคนจึงโทรไปที่บ้านของแดง ปรากฏว่า แดงยังไม่ตื่น เพื่อนๆจึงไม่พอใจว่าตัวเองเป็นผู้นัดคนอื่นแต่ตัวเองกลับมาสายเอง เพื่อนจึงรีบไปที่บ้านของแดง เมื่อไปถึง แดงกลับบอกว่าเพื่อนอีกคนบอกกับตนว่าได้เลื่อนนัดไปอีกวันหนึ่ง ทั้งที่ตัวแดงเองนั้นตื่นสาย แดงจึงเข้าข่ายคำว่า รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง

2.หนีปะจะเข้ ความหมาย เจอสิ่งที่เลวร้ายและต้องมาเจอสิ่งที่เลวร้ายกว่า

ตัวอย่าง เช่น ในหมู่บ้านชาวชนบทอันห่างไกล พวกชาวบ้านพวกนกำลังจะมีอาชีพหาของป่าและรับจ้างโค่นต้นไม้ให้นายจ้างหน้าเงิน นายจ้างคนนี้มีอุบายที่จะบอกชาวบ้านให้ช่วยกันหาของป่าและตัดไม้ เพื่อที่ทุกคนจะได้มีฐานะร่ำรวยขึ้นจากที่เป็นอยู่ พอชาวบ้านเพียงได้ยินแค่คำว่ารวยชาวบ้านพวกนี้ก็ตาโตเป็นไข่ห่านเลย แล้วพวกเขาก็ถามนายจ้างว่าให้อย่างไรบ้าง นายจ้างก็บอกไม่ยากเลยแค่หาของป่ากับโค่นไม้ใหญ่จำนวนมากๆมาให้ เขาจะมอบเงินจำนวนหนึ่งเป็นของตอบแทนแก่พวกท่าน จากนั้นชาวบ้านก็ได้เกณท์สมัครพักพวกออกหาของป่า และช่วยกันตัดโค่นไม้ พอได้ตามจำนวนก็ใช้ช้างชักรากมาให้นายจ้างเพื่อแลกกับเงินเพียงไม่กี่พันบาท แต่ต้นไม้แต่ละต้นไม่ใช่ว่า วัน สองวันโตเป็นต้นใหญ่ขึ้นมาได้ แต่พวกเขาไม่เคยนึกถึงเรื่องนั้นเลย และต่อมาไม่นานพวกเขาก็ได้เผชิญกับผลกรรม คือในบ่ายวันหนึ่งในขณะที่พวกเขากำลังตัดไม้กันอยู่ ก็ได้มีกำลังทหารพรานได้เข้าบุกจับพวกเขาและโดนข้อหาตัดไม้และหาของป่าโดยไม่ได้รับอนุญาติ และต่อมาอีกไม่นานได้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ ทำให้ท่อนซุงไหลลงมาจากเขาทำให้บ้านเรือนของพวกเขาเสียหายในที่สุด
3.ไม้อ่อนตัดง่าย ไม้แก่ตัดยาก
ความหมาย อบรมสั่งสอนให้เด็กประพฤติดีจะทำได้ง่ายกว่าอบรมสั่งสอนผู้ใหญ่

ตัวอย่าง เช่น มีครอบครัวอยู่ครอบครัวหนึ่งซึ่งมีลูกชาย 2 คน แต่อายุของเด็กสองคนนี้แตกต่างกันมาก คงจะเป็นเพราะพ่อกับแม่ของเค้าทิ้งช่วงในการมีลูกนานเกินไป อาจจะเพราะความไม่พร้อมและฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัวด้วย จึงมีลูกอายุห่างกันถึง 20 กว่าปี ซึ่งลูกชายคนเล็กนั้น มีอายุได้ 6-7 ขวบ ในขณะที่ลูกชายคนโตมีอายุปาเข้าไป 28 ปีแล้ว สำหรับฐานะของครอบครัวนี้ในช่วงนี้นั้นก็จัดว่าพอมีกินมีใช้ แต่ด้วยเหตุใดไม่รู้ลูกชายคนโตถึงชอบไปหยิบไปขโมยของหรือทรัพย์สินของชาวบ้านแถวนั้นมาเป็นประจำ อาจจะด้วยเหตุว่าเมื่อตอนชายคนนี้ยังเด็กๆอยู่นั้น ขาดการอบรมสั่งสอนจากพ่อแม่ เพราะพ่อแม่มัวแต่ทำงานกันจึงไม่มีเวลามาสั่งสอนเลี้ยงดูเด็กคนนี้ ครั้นจะมาสั่งสอนเอาตอนนี้ มันก็ดูทีว่าจะสายไปเสียแล้ว และที่สำคัญพ่อแม่ก็ไม่อยากที่จะให้ลูกชายคนเล็กคนตนเป็นไปอีกคนด้วย เลยพร่ำสอนลูกชายคนที่ 2 มาตั้งแต่เล็กๆ และก็ได้ผลด้วย เพราะเด็กชายคนเล็กคนนี้นั้น ไม่เคยไปขโมยของของใครเลย และทำให้พ่อและแม่เข้าใจเลยว่า ไม่อ่อนดัดง่าย ไม่แก่ดัดยาก จริงๆซะด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น